ศาลฯ นัดพิพากษา เอเซีย พลัส ฟ้อง STARK ผิดนัดจ่ายหุ้นกู้ 3,934 ล้าน 11 มิ.ย.นี้

บล.เอเซีย พลัส ได้ส่งหนังสือถึงผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK242A) ระบุว่า ตามที่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้) ของหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK242A) 

ขอเรียนแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ยื่นฟ้อง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เป็นจำเลยต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เป็นคดีผู้บริโภคคดีหมายเลขดำที่ ผบ 397/2566 เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2566 เพื่อเรียกร้องให้ผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้คงค้างทั้งหมด และศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีการนัด โจทก์และจำเลยสืบพยาน ในวันที่ 23 เม.ย.2567 นั้น

ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2567 โจทย์และจำเลย นำพยานเข้าสืบฝ่ายละ 1 ปาก และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 11 มิ.ย.2567 เวลา 9.00 น. 

ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าที่สำคัญเป็นประการใด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะแจ้งให้ท่านผู้ถือหุ้นกู้ทราบต่อไป

สำหรับหุ้นกู้ STARK242A ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 17 ก.พ.2567 มูลค่า 3,934.30 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่ บล.เอเซีย พลัส จะได้รับชดใช้เงินต้นของหุ้นกู้ STARK242A พร้อมดอกเบี้ย หลังจากวานนี้ (23 เม.ย.) ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ ผบ.347, 403/2566 มีโจทก์ คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ในฐานะผู้ถือหุ้นแทน ให้ฟ้องร้อง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK

โดยวินิจฉัย และตัดสินว่า STARK การกระทำผิดสัญญา และผิดนัดชำระหนี้ จึงต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับ KBANK ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ของหุ้นกู้ 4 รุ่นของ STARK มูลค่ารวมกว่า 5,264.10 ล้านบาท (เฉพาะเงินต้นยังไม่รวมดอกเบี้ย) ได้แก่

1.หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2566 (STARK239A) มูลค่าเงินต้น 1,291.50 ล้านบาท
2.หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 (STARK249A) มูลค่าเงินต้น 949.50 ล้านบาท
3.หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 (STARK245A) มูลค่าเงินต้น 1,701.10 ล้านบาท
4.หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 (STARK255A) มูลค่าเงินต้น 1,322.00 ล้านบาท